Drying Oven คือ เครื่องอบแห้งที่ใช้สำหรับลดความชื้นของตัวอย่างโดยการอบด้วยอุณหภูมิสูงซึ่งจะใช้ความร้อนจากแหล่งพลังงานไฟฟ้าหรือแก๊ส เป็นต้น เพื่อให้เกิดการสังเคราะห์และระเหยของน้ำ ที่อยู่ภายในตัวอย่าง โดยมีลักษณะเด่นดังนี้

1. ความสามารถในการควบคุมอุณหภูมิ - เครื่องอบแห้งสามารถควบคุมอุณหภูมิได้ระหว่าง 50-300 องศาเซลเซียส

2. ความเป็นมาตรฐาน - เครื่องอบแห้งจะมีการตรวจสอบการระเหยของน้ำ ซึ่งจะทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย

3. ระบบการระบายอากาศ - เครื่องอบแห้งมีระบบการระบายอากาศ ทำให้สามารถควบคุมความชื้นได้แม้จะเปิดปิดฝาของเครื่อง

4. มีตะกร้าอยู่ภายใน - เครื่องอบแห้งจะมีตะกร้าอยู่ภายในสำหรับใช้ใส่ตัวอย่างที่ต้องการอบ

Drying Oven สามารถแบ่งเป็นหลายประเภทตามลักษณะการใช้งานและส่วนประกอบต่างๆ ดังนี้

1. Gravity Convection Oven - ใช้การหมุนเวียนของอากาศร้อนเป็นตัวลดความชื้น โดยส่งความร้อนจากด้านบนไปยังตะกร้าในการอบแห้ง

2. Forced Air Oven - ใช้ระบบพัดลมเพื่อส่งอากาศร้อนไปยังตะกร้าในการอบแห้ง ทำให้ความร้อนและความชื้นถูกกระจายอย่างเท่าเทียมทั่วถึง

3. Vacuum Drying Oven - ใช้ระบบสูญญากาศเพื่อลดความชื้น โดยใช้ปั๊มสูญญากาศเพื่อดึงอากาศและความชื้นออกจากตะกร้าในการอบแห้ง มีความเร็วในการลดความชื้นสูง

4. Microwave Drying Oven - ใช้การส่งคลื่นไมโครเวฟเพื่อส่งความร้อนไปยังตัวอย่าง ทำให้เกิดการสังเคราะห์น้ำและทำให้ความชื้นลดลง มีความเร็วในการลดความชื้นสูง 

Muffle Furnace เป็นเครื่องอบที่มีลักษณะเป็นกล่องซึ่งใช้ความร้อนสูงกับงานที่ต้องการอุณหภูมิสูง โดยจะใช้งานในการหมักหรือย่อยสลายสารอินทรีย์หรือใช้ในการอบแผ่นเหล็กหรือชิ้นส่วนอื่นๆที่ต้องการความแข็งแรงทนทาน Muffle Furnace จะสร้างอุณหภูมิได้สูงถึง 1,800 องศาเซลเซียส มีส่วนประกอบหลักคือห้องอบ (furnace chamber) ซึ่งเป็นกล่องที่มีผนังที่มีความหนาเพื่อให้รักษาความร้อนและป้องกันการรั่วไหลของความร้อน ส่วนอุปกรณ์สำหรับควบคุมอุณหภูมิและเวลา (temperature and time control) จะใช้กำหนดอุณหภูมิและเวลาในการทำงาน

Muffle Furnace มีหลายประเภทตามการใช้งานและลักษณะของการออกแบบ ดังนี้

1. Fixed Temperature Muffle Furnace - เป็นประเภทที่มีการกำหนดอุณหภูมิที่คงที่และไม่สามารถปรับได้ ส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่ต้องการอุณหภูมิสูงและคงที่ เช่น การย่อยสลายสารอินทรีย์

2. Programmable Muffle Furnace - เป็นประเภทที่สามารถปรับอุณหภูมิและเวลาการทำงานได้ตามต้องการ จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิและเวลาการทำงานอย่างแม่นยำ

3. Ashing Furnace - เป็นประเภทของ Muffle Furnace ที่ใช้สำหรับการเผาตัวอย่าง โดยส่วนใหญ่ใช้ในงานทางเคมี เช่น การทำความสะอาดตัวอย่างหรือการตรวจสอบสารสกัด

4. High Temperature Furnace - เป็นประเภทของ Muffle Furnace ที่มีความสามารถในการใช้อุณหภูมิสูงถึง 1,800 องศาเซลเซียส สามารถใช้งานได้ในงานที่ต้องการอุณหภูมิสูง

5. Vacuum Furnace - เป็นประเภทของ Muffle Furnace ที่มีความสามารถในการทำงานในสภาวะสุญญากาศเพื่อลดการสัมผัสกับออกซิเจน